ความลับข้อที่4 ของ NLP รู้แล้วจะเก่งการสื่อสารขั้นเทพ
ทุกวันที่คุณมีประสบการณ์กับโลกภายนอก คุณรับรู้มันโดยผ่านประสาทการรับรู้ทั้งห้า ซึ่งก็คือ Five Senses
1. V ย่อมาจาก Visual = การที่ตาของคุณเห็นภาพ
2. A ย่อมาจาก Auditory =การที่หูได้ยินเสียง
3. K ย่อมาจาก Kinesthetic =การที่ผิวกายสัมผัสสิ่งใด มันก่อเกิดความรู้สึกสัมผัส ซึ่งตัว K นี้จะรวมถึงความรู้สึกด้วย
4.O ย่อมาจาก Olfactory = การที่จมูกสามารถรับกลิ่นได้
5. G ย่อมาจาก Gustatory = การที่ลิ้นรับรู้รสชาติได้
.
.
เจ้าสามสิ่งนี้คือประสาทการรับรู้ที่เรียกว่าใช้กันเยอะมาก ๆ
มันจึงเหมือนพี่เบิ้มทั้งสามในห้า
บางครั้งเราจะเขียนคำย่อเรียงติดกันว่า VAK
ก็ขอให้คุณทราบไว้ว่ามันหมายถึง V,A และ K
นอกจากนี้้จมูกสามารถรับกลิ่นได้ เราเรียกว่า Olfactory ซึ่งใช้อักษรย่อว่า O และสุดท้ายคือ ลิ้นรับรู้รสชาติ มันคือ Gustatory หรือใช้ตัวย่อว่า G คุณจะพบว่าตัวO กับ G จะไม่ถูกพูดถึงมากนัก
.
.
แน่นอนว่าทุกคนที่มีทวารทั้งห้าครบ
ย่อมจะใช้ประสาทการรับรู้ทุกตัว
ในการรับรู้ถึงเหตุการณ์ภายนอก
นี่เป็นเรื่องที่ปกติธรรมดา
แต่เมื่อพิจารณาไปยัง VAK แล้ว
NLP พบว่าคนเราแต่ละคนมักจะถนัด
ในการใช้ตัวใดตัวหนึ่งมากเป็นพิเศษ
.
.
ถ้าคิดกับกรณีของตัวคุณเอง
คุณจะต้องค้นให้พบว่าคุณใช้ประสาทการรับรู้ตัวไหนมากที่สุด
ระหว่าง V กับ A กับ K แม้ว่า คุณจะใช้ V, A, K ,O และ G คละเคล้ากันไปมากบ้างน้อยบ้างก็ตาม
แต่มันจะมีอยู่หนึ่งที่คุณถนัดมากที่สุด
ประมาณว่าคุณโปรดปรานมันทีเดียว
ซึ่งมันจะคือตัวใดตัวหนึ่งใน VAK

.
ฉะนั้น
.
เมื่อแบ่งคนตามความถนัดเชิงประสาทการรับรู้แล้ว
คุณจะพบว่าคนบางคนถนัดที่จะใช้ตาในการเข้าใจโลก
คนบางคนจะถนัดในการฟังหรือได้ยินในการเข้าใจโลก
และคนบางคนจะถนัดในการใช้ความรู้สึก (หรือสัมผัส)
ในการเข้าใจโลก คุณเองก็เช่นกัน
มันสำคัญที่คุณจะต้องรู้ว่าคุณถนัดตัวไหน
และมันก็สำคัญเช่นกันถ้าคุณรู้ว่าคนอื่นๆ
ที่แวดล้อมตัวคุณถนัดตัวไหนใน VAK
.
.

เพราะว่าคุณจะถนัดเป็นพิเศษ
กับประสาทการรับรู้ตัวหนึ่ง
นั่นเป็นเหตุให้ระบบประสาทของคุณ
ประมวลผลของมันได้อย่างรวดเร็ว
คุณแทบไม่รู้ตัวเลยว่าคุณใช้มันมากกว่าอย่างอื่นๆ
ส่วนประสาทการรับรู้ตัวอื่นๆ
ก็มักจะโดน "ตัดทิ้ง" อยู่เรื่อย
.
เช่น
.
ถ้าคุณถนัดการมองเห็นภาพ (V)
ถ้างานที่คุณทำที่มันเกี่ยวข้องกับหมวดนี้
ย่อมเข้าใจง่ายสำหรับคุณ
แต่ถ้าคุณไปพัวพันกับเรื่องเสียง
หรืออะไรที่คลำด้วยความรู้สึกก่อนละก็
คุณอาจสมองตันเอาง่ายๆ
เพราะว่าคิดไม่ค่อยออก

กรณีที่คุณถนัดหมวดภาพมันแปลว่า
คุณคิดเป็นภาพเสียส่วนใหญ่
คุณไม่ถนัดที่จะคิดเป็นเสียงหรือความรู้สึก
อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณรู้ตัว แล้วอยากจะฝึกฝนให้ตัวคุณถนัด
ประสาทการรับรู้หมวดอื่นๆ เพิ่ม นั่นย่อมทำได้
แต่ถ้าคุณไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงหรือปรับปรุงอะไร
การรู้ชัดว่าคุณโปรดปรานหมวดไหนนับว่าสำคัญมาก
.

ถ้าคุณสังเกต คุณจะพบว่า
คนเราใช้คำพูดที่บ่งบอกว่าเขาถนัดหมวดไหนของ VAK
มันเป็นเบาะแสที่สำคัญทีเดียว
มันสามารถช่วยให้คุณเชื่อมโยงกับพวกเขาได้ง่ายขึ้น
คุณสามารถสื่อสารกับพวกเขาให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น
ถ้าคุณใช้ภาษาด้วยคำศัพท์ในหมวดที่เขาถนัด
มันเหมือนกับว่า คุณกำลังคิดในแบบที่เขาถนัดนั่นเอง
.
.

คำในหมวดของ #คนถนัดการมอง (Visual Word)
ได้แก่ มอง ,เห็น ,ชัด ,สว่าง, วิว, เป็นประกาย ,ชัดเจน ,มุมมอง เห็นภาพ ,เป็นสี ,ส่องสว่าง, คมชัด, มืดมัว , มีวิสัยทัศน์ , เต็มตา ตาบอด, มองดู , ไม่ดู ,ไม่เห็น เป็นต้น
.
.

คำในหมวดของ #คนถนัดการฟัง (Auditory Words) ได้แก่ ฟัง ได้ยิน ,เสียง, พูดว่า , บอกว่า, ถาม, เต็มหู, คุ้นหู, เงียบ ,ดัง,จังหวะ,สะท้อน,กังวาน,หูหนวก,ระดับเสียง,ได้ยินมาว่า.ไม่ฟัง เป็นต้น
.
.

คำในหมวดของ #คนถนัดความรู้สึกหรือการสัมผัส
(Kinestheic Words) ได้แ่ก รู้สึกว่า , ไม่รู้สึก, แข็ง, นุ่ม ,กระด้าง,เข้าใจ,ติดต่อกันไว้นะ, นุ่มนวล,ร้อน,หนาว ,เจ็บปวด เป็นต้น
.
.
เมื่อคุณได้ค้นพบว่าคุณและคนอื่นๆ
ชอบพูดคำในหมวดไหนออกมาบ่อยๆ
มันคือพยานที่ดีว่าคุณหรือใคร ๆถนัด
หรือโปรดปรานการรับรู้ด้วยหมวดใด

จงฝึกฝนที่จะเข้าใจแผนที่เชิงความถนัดทาง Sense ของพวกเขา แล้วคุณจะเชื่อมโยง
สื่อสารและสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนได้โดยง่าย
ในชีวิตทางธุรกิจหรือหน้าที่การงานของคุณ
คุณต้องการความร่วมมือของผู้คนที่แวดล้อมตัวคุณเป็นอย่างมาก
กระทั่งคนรัก คนในครอบครัว และคนที่คุณรู้จัก
พวกเขาทุกคนล้วนชื่นชอบและถนัดในแบบของเขา
#จงใช้ความลับในข้อนี้ให้เป็นประโยชน์กับตัวคุณให้มากที่สุด
คุณไม่ได้อยู่ตามลำพังตัวคนเดียว
แต่คุณต้องอยู่กับผู้คน
จำไว้ว่าผู้คนอันหลากหลายรับรู้โลก
ผ่านประสาทการรับรู้ในหมวดที่เขาถนัด
อย่างพลาดกับเรื่องนี้นะครับ

------------------------------------------------
#สรุป
------------------------------------------------
จงตั้งใจฟังภาษาที่คนอื่นๆ กำลังใช้ให้ดี
แล้วใช้ภาษาเดียวกันกับพวกเขา
คิดในแบบที่พวกเขาถนัด
ถ้าคุณไม่แน่ใจว่าเขาถนัดหมวดไหนเป็นพิเศษ
คุณจำเป็นที่จะต้องยืดหยุ่นกับภาษาที่คุณกำลังใช้
โดยมันมีความหลากหลายของคำในหลายๆหมวดเข้าไว้
อย่าใช้เฉพาะคำในหมวดที่คุณถนัดแบบไม่เลิกรา
ถ้ามันเข้ากับพวกเขาไม่ได้ละก็
คุณจะพบว่าพวกเขาไม่ค่อยจะเข้าใจตัวคุณเอาเสียเลย
ฉะนั้น จงตั้งใจฟังคนอื่นๆ ประยุกต์ใช้กลับไปให้เหมาะ
และมีความยืดหยุ่นครับ

.
.
หากคุณเห็นว่าบทความนี้มีประโยชน์ กรุณากดlike และ share ให้กับเพื่อนๆ
และคนที่คุณรักให้พวกเขาได้ทราบด้วยนะครับ
ขอบคุณทุกท่านที่สละเวลาอ่านครับ
.
.
ด้วยรัก,
อาจารย์ วันชัย ประชาเรืองวิทย์
The Best NLP Trainer of Thailand