หน้าหลัก > NLP > ความลับที่ 30 ของ NLP เปลี่ยนความคิดเชิงลบของคุณ 
ความลับที่ 30 ของ NLP เปลี่ยนความคิดเชิงลบของคุณ 
NLP
ความลับที่ 30 ของ NLP เปลี่ยนความคิดเชิงลบของคุณ 
20 Sep, 2019 / By coachwanchai
Images/Blog/RNCqnyJh-NLP-Banner4238.jpg

ยามที่คุณเผชิญกับปัญหาหรือความท้าทาย ในชีวิตรอบด้านของคุณไม่ว่าจะเป็น การงาน ธุรกิจ สุขภาพ ความสัมพันธ์ หรืออะไรก็ตาม แล้วในขณะนั้น ..คุณคิดว่าคุณเป็นคนในเชิงบวก..หรือ..ลบ
คุณมักจะให้กำลังใจตนเอง..เชียร์ตัวเอง และปลุกใจตนเอง
ราวกับว่าเป็นโค้ชส่วนตัวให้กับตัวคุณเองหรือเปล่า หรือว่าคุณมักสะกดตัวเอง ลงโทษ...หรือทุบตีจิตใจของตัวคุณเองเสียมากกว่า
.
.
คนในเชิงลบพอตั้งเป้าหมายอะไรสักอย่างขึ้นมา
แล้วเขาก็คิดว่า “ฉันมันไม่ดีพอที่จะทำสิ่งนี้หรอก”
หรือ “ไอ้เรื่องนี้มันต้องมุ่งหน้าสู่ความล้มเหลวแหงๆ อยู่แล้ว”
หรือ “พวกเขาไม่ชอบฉัน” ฯลฯ
.
.
ผมจะมอบเครื่องมือที่ทรงพลังเพื่อเปลี่ยนความคิดที่ชอบทำลายล้างตนเองให้กับคุณ มันเป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ NLP ชอบทำ
.
.
1. ให้คุณหลับตาลง ให้คุณมองเห็นความคิดเชิงลบของคุณให้กลายเป็นภาพในใจภาพหนึ่ง
.
.
2. จงสังเกตว่าภาพนี้มันสว่างหรือมืด เล็กหรือใหญ่
ภาพนี้มันมีกรอบหรือไม่มีกรอบ
มันเป็นภาพนิ่งหรือว่ามันเคลื่อนไหวอยู่
มันเป็นภาพสีหรือว่าขาวดำ
ขณะที่คุณหลับตาอยู่นี้ มีตัวคุณอีกคนอยู่ในภาพหรือไม่
.
.
3. ในขณะที่หลับตาอยู่นี้ ขอให้คุณจงใจเปลี่ยนภาพในใจนี้
ทำให้ภาพมันเล็กลง ทำให้มันมืดลงไป
นึกให้ภาพมันเคลื่อนที่ห่างออกไปจนมันอยู่ไกล
ถ้าเดิมมันมีกรอบ จงทำให้มันไม่มีกรอบหรือกลับกัน
จงทำแบบนี้กับภาพในใจของคุณ แล้วดูว่าจะเกิดอะไรขึ้น
.
.
คุณจะพบว่า คุณรู้สึกต่างออกไปกับความคิดลบนี้
เพราะว่าคุณได้ปรับเปลี่ยนวิธีบันทึก
หรือการจัดเก็บภาพนี้ไว้ในจิตใต้สำนึกของคุณ
การที่คุณได้ทำอย่างนั้นกับภาพเชิงลบในใจของคุณ
มันได้ลดทอนพละกำลังของภาพในเชิงลบนั้นให้กับคุณ
ทำให้คุณเป็นอิสระมากขึ้น นี่มันสุดยอดไหมละนั่น
.
.
#NLP เรียกการทำแบบนี้ว่าคุณได้ไปปรับเปลี่ยนคุณสมบัติต่างๆ
หรือ โครงสร้างของภาพ เจ้าบรรดาคุณสมบัติต่างๆ นี้
เราเรียกว่า #Submodalities
.
.
ฉะนั้น เมื่อคุณได้ปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของภาพ
เช่น
จากใหญ่--->เป็นเล็ก
จากสว่าง--->เป็นมืด
จากใกล้--->เป็นไกล
จากมีกรอบ--->เป็นไม่มีกรอบ

นี่แหละคือการเปลี่ยน Submodalities ของภาพ
ภาษาอังกฤษเรียกว่า Visual submodalities
(หรือ Image Submodalities)
.
.
แต่ถ้าคุณจะทำขั้นตอนทั้งสามกับภาพเชิงบวกในใจ
ที่เป็นตัวแทนของความคิดเชิงบวกละก็
คุณจะต้องทำตรงกันข้าม ....
...
เช่นสมมติว่าคุณอยากจะมีความคิดเชิงบวกที่ว่า
------------------------------------------
“ฉันได้สิ่งที่ฉันต้องการ ...ฉันทำได้”
------------------------------------------
วิธีที่คุณจะส่งเสริมความคิดนี้ให้หนักแน่นมั่นคงและรู้สีกดีก็คือ
จงแปลงความคิดนี้ให้เป็นภาพสักภาพในใจ
จากนั้นสังเกตองค์ประกอบหรือสภาพที่ภาพปรากฎอยู่ในใจ
ว่ามันมีลักษณะเช่นใด ...
จากนั้น ปรับภาพให้มัน...ใหญ่ขึ้น...สว่างขึ้น...
มีสีสันสวยงาม และเคลื่อนที่เข้ามาอยู่ใกล้ๆ
ถ้าเดิมมันมีกรอบก็ทำให้มันไม่มีกรอบหรือกลับกัน
ทำให้ภาพนี้อบอุ่นและเป็นมิตร
.
.
จงทดลองทำดู แล้วดูว่ามันได้ผลไหม?
.
.
แต่ผมรู้ว่ามันจะเปลี่ยนความรู้สึกของคุณ
และนี่ก็เช่นกันเพราะว่าคุณได้ปรับเปลี่ยนวิธีบันทึก
หรือการจัดเก็บภาพเชิงบวกนี้ไว้ในจิตใต้สำนึกของคุณ
การที่คุณได้ทำอย่างนั้นกับภาพเชิงบวกในใจของคุณ
มันได้เพิ่มพละกำลังของภาพในเชิงบวกนี้ให้กับคุณ
.
.
อย่างไรก็ตาม เพื่อองค์ความรู้ที่ครบถ้วนมากขึ้น
ถ้าในกรณีที่คุณไปปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของเสียง
ที่เคยบันทึกไว้ในคลังความจำของคุณละก็
มันก็จะกลายเป็นการไปยุ่งกับ Auditory Submodalities
(ซึ่งเป็นการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติของ Voice และ Sound ในใจนั่นเอง) และถ้าคุณไปปรับเปลี่ยนคุณสมบัติเชิงความรู้สึกหรือสัมผัสในใจ นี่เรียกว่า Kinesthetic submodalities สิ่งเหล่านี้คือความรู้ขั้นพื้นฐานของ NLP ที่ทุกคนต้องรู้

เมื่อมันถึงเวลาที่ผมจะต้องขับรถไปทำธุระบางอย่าง
ครั้นพอผมนึกถึงการขับรถไปไหนต่อไหนของผม
ในบางครั้งบางคราว ผมเกิดความรู้สีกอิดออดไม่อยากจะไป
แล้วผมก็เกิดสติไวคิดขึ้นมาได้ว่า...
ไอ้ความรู้สึกแบบนั้นมันอาจเป็นเพราะ..
ผมไปมีภาพของรถติดในใจ..
มันเป็นภาพที่ใหญ่..สว่าง..และใกล้
ผมจึงหลับตา นึกถึงภาพการจราจรที่ติดขัดเป็นประจำขึ้นมาในใจ
ผมจินตนาการให้ภาพนี้เล็กลงไป
เหลือขนาดเท่ากับดวงแสตมป์สี่เหลี่ยมเล็กๆ มืด
และลอยถอยหลังออกไปไกลจากใบหน้าของผม
จากนั้น ผมลืมตาขึ้น โอ รู้สึกดีขึ้นตั้งเยอะ
แล้วผมก็ขับรถออกไปทันที มันได้ผล!

.
ด้วยรัก,

อาจารย์ วันชัย ประชาเรืองวิทย์
The Best NLP Trainer of Thailand

Like
ความคิดเห็น (0)
ก่อนหน้า 1 ถัดไป
ร้านค้าออนไลน์
© 2006-2024
Vevo Systems Co., Ltd.